คำกริยา verb part 2

       เรามาเริ่ม เรียนภาษาอังกฤษ กันต่อ ในบทนี้เราจะกล่าวถึง คำกริยา verb ที่นอกจากกลุ่ม verb to do, verb to be และ verb to have ยังมี กริยาช่วย Auxiliary verb ประกอบด้วย 13 คำัต่อไปนี้

คำกริยา verb part 1

     คำกริยา verb  ซึ่งมีความสำคัญมากอีกตัวหนึ่งในเรื่องของไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ซึ่ง คำกริยา verb เป็นคำที่แสดงการกระทำของประธานในประโยค และแสดงถึงกาลเวลาของประโยคนั้นอีกด้วย นอกจากนั้นแล้ว คำกริยา verb ยังสามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้

1. สกรรมกริยา Transitive verb หมายถึง คำกริยาที่จะต้องมี กรรม object มารองรับอยู่ในประโยคด้วยจึงจะเป็นประโยคที่สมบูรณ์ เช่น You are opening "คุณกำลังเปิด" ถ้าบอกแค่นี้ยังไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเปิดอะไร เราจึงต้องการกรรมมาขยายเพื่อที่จะทำให้ประโยคนั้นสมบูรณ์ เช่น You are opening the door. คุณกำลังเปิดประตู เราขยายความได้ว่า door  ประตู  คือ กรรม มีหน้าที่รองรับกริยาหรือขยายกริยา  open คือ กริยา ว่าเปิดอะไร ถ้าไม่มีกรรมมาขยายหรือรองรับประโยคเหล่านั้นก็จะมีใจความไม่สมบูรณ์ เป็นต้น

การเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ comparision of adjectives คำคุณศัพท์ adjective part 3

    การเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ comparision of adjectives คือการให้ความหมายที่เกี่ยวกับปริมาณหรือจำนวนมากน้อยกว่ากัน หรือมากที่สุด คำ adjective ธรรมดา ถือว่าอยู่ในขั้นปกติคือ Positive Degree ขั้นที่เปรียบเทียบความมากน้อยกว่ากันอยู่ในขั้น Comparative Degree และขั้นที่ให้ความหมายที่สุด สูงสุด ต่ำสุด มากที่สุด น้อยที่สุด จัดอยู่ในขั้น Superlative Degree

    ซึ่งวิธีการแปลง adjective (ขั้นธรรมดา) positive ให้เป็น adjective ในขั้น comparative (ขั้นกว่า)  และขั้น Superlative  (ขั้นสุด) ทำได้ดังนี้

คำคุณศัพท์ adjective part 2

        เรามาเรียน ภาษาอังกฤษ กันต่อดีกว่า จากบทความที่แล้วที่ได้นำเสนอประเภทของ คำคุณศัพท์ adjective ประเภทต่างๆ ว่ามีอะไรบ้าง part 2 นี้ก็จะขอยกตัวอย่างคำคุณศัพท์ประเภทต่างๆ ให้เข้าใจกันมากยิ่งขึ้นดังต่อไปนี้ครับ
1. คำคุณศัพท์บอกลักษณะ Descriptive adjective
ยกตัวอย่าง That cat is long tail  แมวตัวนั้นหางยาว, You are cute คุณเป็นคนน่ารัก
2. คำคุณศัพท์บอกชื่อเฉพาะหรือสัญชาติ Proper adjective
ยกตัวอย่าง my friend is learning english language  เพื่อนของฉันกำลังเรียนภาษาอังกฤษ, I am eating chinese food ฉันกำลังกินอาหารจีน

คำคุณศัพท์ adjective part 1

     คำคุณศัพท์ adjective คือคำที่ทำหน้าที่ขยาย คำนาม noun ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น อย่างเช่น ขยายเพื่อบอกลักษณะบอกปริมาณ บอกขนาด บอกจำนวน บอกสี ของนามนั้น เรายังสามารถแบ่งคำคุณศัพท์ออกเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้

1. คำคุณศัพท์บอกลักษณะ Descriptive adjective คือคำคุณศัพท์ที่ขยายลักษณะคุณภาพของคำนาม นั้นๆ เช่น

good          ดี

bad            เลว

fat              อ้วน

thin            ผอม  บาง

black          ดำ

white          ขาว 

cute            น่ารัก

ugly            น่าเกลียด

คำสรรพนาม pronoun part 2

       บทนี้เราจะกล่าวถึงเรื่อง กลุ่มคำในภาษาอังกฤษ parts of speech ว่าด้วยเรื่อง คำสรรพนาม pronoun part 2 มีรายละเอียดที่จะกล่าวถึงดังต่อไปนี้ 

1. สรรพนามคำถาม หรือ Interrogative Pronoun   เป็นสรรพนามที่ใช้แทนคำนามไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ แต่ว่าใช้เฉพาะในประโยคคำถามเท่านั้น สรรพนามคำถาม เช่น

who         ใคร  

whom      ใคร

whose      ของใคร

what         อะไร

which        สิ่งไหน  อันไหน  คนไหน

คำสรรพนาม pronoun part 1

     คำสรรพนาม Pronoun คือคำที่ใช้แทนคำนามเพื่อไม่ให้กล่าวคำนามซ้ำๆ อีก แล้วคำสรรพนามสามารถแบ่งแยกย่อยออกมาได้อีก 8 ชนิด ดังนี้

1. บุรุษสรรพนาม Personal Pronoun เป็นสรรพนามที่ใช้แทนชื่อของ คน สัตว์ สิ่งของ และสถานที่ โดยทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค บุรุษสรรพนามเหล่านั้น ได้แก่ I, you, we, he, she, it และ they เราจะมายกตัวอย่างของประโยคเหล่านี้กัน อย่างเช่น ถ้าอยากพูดว่า jack กับ jane ชอบว่ายน้ำ เราก็สามารถใช้คำว่า

พวกเขา (They) คือ They like to swim เป็นต้น ประโยคต่อไปนี้จะเป็นการยกตัวอย่างการใช้สรรพนามทั้ง 7 ดังนี้

คำนำหน้านาม Articles (A, An, The)

       บทความตอนที่แล้วได้พูดถึงเรื่องของคำนามในรูปแบบต่างๆ ที่กล่าวไปแล้ว และในบทความนี้จะกล่าวถึง คำนำหน้านาม หรือที่เรียกกันว่า Articles (A, An, The)  คือ คำที่ใช้สำหรับอยู่หน้าคำนามโดยทั่วไปคำนามควรมีคำนำหน้านามเสมอ เพื่อให้คำนามมีความหมาย และขยายคำนามให้แตกต่างกัน ซึ่ง คำนำหน้านาม articles แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ 

1. Indefinite Article  คือ a และ an  ซึ่ง "a" ใช้นำหน้าคำนามทั่วไปไม่ได้ชี้เฉพาะเจาะจง และต้องเป็นคำนามเอกพจน์ ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะเท่านั้น ส่วน "an" จะใช้ต่อเมื่อคำนามนั้นขึ้นต้นด้วยสระ a, e, i, o และ u ซึ่งเป็นคำนามนับได้และเป็นเอกพจน์ 

2. Definite Article คือ "the" ใช้นำหน้าคำนามที่ชี้เฉพาะเจาะจงให้ชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเอกพจน์ หรือพหูพจน์ จะึขึ้นต้นด้วยพยัญชนะหรือสระก็ได้

คำนามนับได้และคำนามนับไม่ได้ countable noun and uncountable คำนาม noun part 2

      ในบทความที่แล้วที่ได้กล่าวถึง คำนาม noun ทั้ง 8 ชนิด เรายังสามารถแยกคำนามออกเป็น 2 ประเภท คือ  คำนามนับได้ และ คำนามนับไม่ได้ countable noun and uncountable noun ซึ่งมีลักษณะดังนี้

       คำนามนับได้ Countable noun คือ คำนามที่มีลักษณะนับได้ เห็นเป็นชิ้นเป็นอันชัดเจน สังเกตได้จาก คำนำหน้านาม article (ซึ่งจะกล่าวในบทถัดไป) เช่น  a  cat   แมวตัวหนึ่ง,  a  dog  สุนัขตัวหนึ่ง,  an  elephant  ช้างตัวหนึ่ง, a  pen  ปากกาหนึ่งด้าม, a  book  หนังสือเล่มหนึ่ง เป็นต้น

คำนาม noun part 1

     จากบทความที่แล้วที่ได้กล่าวถึง parts of speech ชนิดของกลุ่มคำในภาษาอังกฤษ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 8 ชนิด ดังที่กล่าวไปแล้วเบื้องต้นจากบทความที่แล้ว  ซึ่งบทความในส่วนนี้จึงขอเล่าถึงรายละเอียดของคำนามในแต่ละชนิด เริ่มจาก คำนาม Noun  คือ คำที่ใช้เรียกคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ต่างๆ เช่น

1. ตัวอย่างคำนามคน boy เด็กผู้ชาย, girl เด็กผู้หญิง, mother แม่,  father พ่อ

2. ตัวอย่างคำนามสัตว์ dog สุนัข, cat แมว, rat หนู, chicken ไก่

3. ตัวอย่างคำนามสิ่งของ pen ปากกา, pencil ดินสอ, ruler ไม้บรรทัด
4. ตัวอย่างคำนามสถานที่ company บริษัท, city เมือง

มาเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษกัน let's study english

               

     ภาษาอังกฤษ english พอพูดแล้วบางคนถึงกับส่ายหน้า เพราะมันเป็นการยากสำหรับหลายๆ คนในการที่จะเข้าใจในภาษาอังกฤษ ผู้เขียนก็เลยเขียน blog นี้ขึ้นมาเผื่อคนไหนที่สนใจอยาก เรียนภาษาัอังกฤษ และทบทวนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง เข้ามาลองศึกษาค้นคว้ากัน เริ่มต้นจาก ชนิดของ กลุ่มคำในภาษาอังกฤษ parts of speech ซึ่งมีอยู่ 8 ชนิดด้วยกันดังนี้

      1. คำนาม (Noun)  คำที่เรียกใช้ชื่อ คน สัตว์ สิ่งของ อย่างเช่น dad (พ่อ), mom (แม่), dog (สุนัข), cat (แมว), book (หนังสือ), pen (ปากกา) เป็นต้น

        2. คำกริยา (Verb)  คำที่แสดงอาการของประธาน อย่างเช่น the cat is climbing on the tree แมวกำลังปีนขึ้นไปบนต้นไม้, the dog is swimming in the pool สุนัขกำลังว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ (ยังมีรายละเอียดที่ต้องอธิบายเพิ่มเติมในบทต่อไป)